มาตรวจเช็คสภาพรถยนต์เบื้องต้นก่อนออกเดินทางไกลกันครับ
ใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ หลายๆคนเตรียมตัวเดินทางไปท่องเที่ยวหรือกลับบ้านต่างจังหวัด แต่เตรียมตัวอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องเตรียมรถให้พร้อมด้วยนะครับ
1. ยางรถยนต์
การตรวจลมยาง
ควรตรวจเช็คลมยาง และปรับแต่งให้ถูกต้องตามอั ตราที่กำหนด หรือตามคำแนะนำ ในหนังสือคู่มือของรถยนต์เป ็นประจำ
ในกรณีของยางใหม่ ให้เพิ่มความถี่ในการตรวจเช ็คลมยาง ให้มากกว่าปกติ (ในช่วง 3,000 กม. แรก) เนื่องจากโครงสร้างยางในช่ว งนี้ จะมีการขยายตัว ทำให้ความดันลมยางลดลงจากปก ติได้
ห้ามปล่อยลมยางออก เมื่อความดันลมยางสูงขึ้นขณ ะกำลังใช้งาน เพราะความร้อนที่เกิดขึ้นขณ ะใช้งาน เป็นตัวทำให้ความดันลมภายใน ยางสูงขึ้น เมื่อยางเย็นตัวลง ความดันลมยางก็จะกลับสู่สภา วะปกติ
เพื่อป้องกันลมรั่วซึมที่วา ล์ว ควรเปลี่ยนวาล์ว และแกนวาล์วทุกครั้งที่เปลี ่ยนยางใหม่ และมีฝาปิดวาล์วตลอดเวลา
สำหรับยางอะไหล่ ให้ตรวจเช็คลมยางให้ถูกต้อง ทุกๆ เดือน
หากขับรถที่ ความเร็วสูง ควรเติมลมมากกว่าปกติ 3-5 ปอนด์ จะช่วยลดการบิดตัวของโครงยา ง ทำให้เกิดความร้อนน้อยลง หรืออาจใช้การสังเกต จากที่ใช้งานทุกวัน และความชอบของผู้ขับรถเป็นเ กณฑ์ โดยส่วนใหญ่ค่าเฉลี่ยของควา มดันลมยางของรถเก๋ง จะประมาณ 28-30 ปอนด์/ตารางนิ้ว ส่วนรถกระบะ จะประมาณ 35-40 ปอนด์/ ตารางนิ้ว (ขับขี่ทั่วไปไม่บรรทุกหนัก)
1. ยางรถยนต์
การตรวจลมยาง
ควรตรวจเช็คลมยาง และปรับแต่งให้ถูกต้องตามอั
ในกรณีของยางใหม่ ให้เพิ่มความถี่ในการตรวจเช
ห้ามปล่อยลมยางออก เมื่อความดันลมยางสูงขึ้นขณ
เพื่อป้องกันลมรั่วซึมที่วา
สำหรับยางอะไหล่ ให้ตรวจเช็คลมยางให้ถูกต้อง
หากขับรถที่ ความเร็วสูง ควรเติมลมมากกว่าปกติ 3-5 ปอนด์ จะช่วยลดการบิดตัวของโครงยา
2. ระดับของเหลวต่างๆของรถยนต์
เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรค น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ น้ำฉีดกระจก น้ำกลั่นแบตเตอรี่ สามารถตรวจได้บ่อยครั้ง หรือสำหรับผู้ไม่มีเวลาควรต รวจอย่างน้อย 1ครั้ง ต่อ 1สัปดาห์
2.1 น้ำมันเครื่อง การตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื ่อง อุ่นเครื่องยนต์จนถึงอุณหภู มิทำงานแล้วดับเครื่องเช็คร ะดับน้ำมันเครื่องโดย ใช้ก้านวัดระดับน้ำมันเครื่ อง
- เพื่อให้การตรวจเช็คถูกต้อง รถควรอยู่ในแนวระดับเครื่อง ยังร้อน และทำการวัดหลังจากดับเครื่ อง 2-3นาทีเพื่อให้น้ำมันเครื่ องไหลกลับลงด้านล่างก่อน
- ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออก เช็คน้ำมันเครื่องที่ติดกับ ก้านวัดด้วยผ้า
- เสียบก้านวัดน้ำมันเครื่องค ืนกลับจุดเดิม
- ดึงก้านวัดออกมาอีกครั้งหนึ ่ง เพื่อตรวจสอบระดับน้ำมันเคร ื่องที่ปลายก้านวัด ถ้าระดับน้ำมันเครื่องอยู่ร ะหว่าง " F " กับ " L " แสดงว่าระดับน้ำมันเครื่องป กติ
ข้อควรระวัง
- หลีกเลี่ยงการเติมน้ำมันเคร ื่องมากเกินไป เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์เส ียหายได้
- ตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่อง ที่ก้านวัดอีกครั้งหลังเติม น้ำมันเครื่องลงไป
2.2 น้ำมันเกียร์
- ขับรถยนต์เป็นเวลา 15 นาที เพื่ออุ่นน้ำมันเกียร์อัตโน มัติ
ข้อแนะนำ:
• เนื่องจากน้ำมันเกียร์อัตโน มัติจะขยายตัวเมื่อมัน ร้อน ดังนั้นให้ตรวจเช็คระดับน้ำ มันเกียร์หลังจากที่ได้ทำกา รอุ่นให้ร้อนแล้ว เนื่องจากโครงสร้างของเกียร ์อัตโนมัติจะทำให้ปริมาณของ น้ำมันเกียร์มีการ เปลี่ยนแปลงอย่างมากตามอุณห ภูมิที่เปลี่ยนแปลง
• สำหรับโคโรลล่า ให้ตรวจเช็คระดับน้ำมันเกีย ร์เมื่ออุณหภูมิสูงถึง 70 - 80°C (158 - 176°F)
- จอดรถในพื้นระดับและดึงเบรก มือ
- ให้เครื่องยนต์เดินเบา, เหยียบเบรก, ดึงคันเบรกมือและเลื่อนคันเ กียร์อย่างช้าๆ จากตำแหน่ง P ไปยังตำแหน่งอื่นๆ จนถึงตำแหน่งเกียร์ L และเลื่อนกลับไปยังตำแหน่งเ กียร์ P อีกครั้งหนึ่ง
- ดึงไม้วัดระดับน้ำมันออกมาข ณะที่เครื่องยนต์เดินเบา, เช็ดคราบน้ำมันด้วยผ้าให้สะ อาด เสียบไม้วัดระดับน้ำมันเข้า ไปอีกครั้ง และตรวจสอบระดับน้ำมันต้องอ ยู่ช่วง "HOT"
ข้อแนะนำ:
• เมื่อขีดของน้ำมันด้านหลังข องเกจวัดแตกต่างจากด้านหน้า ให้อ่านค่าต่ำสุด
• เมื่อระดับน้ำมันมากกว่าค่า กำหนด น้ำมันเกียร์อัตโนมัติอาจรั ่วออกจากรูระบาย เป็นสาเหตุทำให้เกียร์กระตุ ก
• ถ้าระดับน้ำมันเกียร์ต่ำเกิ นไป อาจทำให้การหล่อลื่นไม่เพีย งพอ จะทำให้เกิดการเสียดสีของกล ไกภายในเกียร์มาก
2.3 น้ำมันเบรค
วิธีการตรวจเช็คระดับน้ำมัน เบรคควรจะอยู่ระหว่าง MAX และ MIN แต่หมั่นตรวจเติมให้อยู่ในร ะดับ MAX ดีที่สุด
เทคนิค : เติมน้ำมันเบรคจนถึงเส้นไข่ ปลาและเมื่อปิดฝา ระดับน้ำมันจะขึ้นถึงระดับท ี่ถูกต้อง
เครื่องมือ - อุปกรณ์ : ผ้าชุบน้ำผืนขนาดพอสมควร ใช้ปิดตัวถังรถ ด้านที่เติมน้ำมันเบรคเพื่อ ป้องกันการกระเด็นไปถูกตัวถ ังรถ
ข้อควรระวัง
- เติมน้ำมันเบรคให้ตรงกับระบ บเบรคของรถหรือน้ำมันเบรคที ่เคยใช้อยู่เท่านั้น แดง-แดง ใส-ใส
- น้ำมันเบรคเป็นอันตรายต่อดว งตาและทำลายสีรถ ระวังล้นหรือกระเด็น
- น้ำมันเบรกจะเสื่อมคุณภาพหา กมีน้ำหรือความชื้นปนลงไป
2.4 น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์
ท่านควรตรวจระดับน้ำมันพวงม าลัยเพาเวอร์เดือนละครั้ง และ ตรวจระดับน้ำพวงมาลัยเพาเวอ ร์ ในขณะที่เครื่องเย็นโดยดูที ่ด้านข้างของกระปุกน้ำมัน ระดับน้ำมันควรอยู่ที่ไม่เก ินขีดระดับสูงสุด และระดับต่ำสุด ถ้าระดับน้ำมันอยู่ต่ำกว่าข ีดสุด ให้เติมน้ำมันจนระดับอยู่ที ่ขีดสูงสุด
ข้อควรระวัง
- เทน้ำมันช้าๆ และระวังอย่าทำน้ำมันหก ถ้าน้ำมันหกให้รีบทำความสะอ าดทันที เพราะน้ำมันที่หกอาจทำความเ สียหายแก่ส่วนประกอบอื่นในห ้องเครื่องยนต์ได้
- ควรใช้น้ำมันยี่ห้อที่ดีตาม โฆษณาทั่วไป
- การที่ระดับน้ำมันต่ำอาจเกิ ดจากการรั่วในระบบ ควรตรวจดูระดับน้ำมันและนำร ถเข้ารับการตรวจสอบระบบพวงม าลัยเพาเวอร์โดยเร็ว
- การหมุนพวงมาลัยค้างไว้สุดท ั้งด้านซ้ายหรือขวาอาจจะทำใ ห้ระบบลูกยาง ท่อยาง ลูกยาง ลูกน้ำท่อยาง ที่เกี่ยวข้องกับระบบเพาเวอ ร์ ฉีกขาดหรือแตกได้ เนื่องจากการหมุนพวงมาลัยสุ ดทำให้แรงดันสูง
2.5 น้ำฉีดกระจก
การเติมน้ำฉีดกระจกให้เติมใ นถังสีขาวให้เต็มหรือบางท่า นอาจจะผสมแชมพู เพื่อให้กระจกใสมากขึ้น
- ระดับน้ำในถังน้ำฉีดกระจกอย ู่ในระดับต่ำหรือว่าไม่มีเล ย : เมื่อตรวจพบว่าระดับน้ำพร่อ ง ควรเติมน้ำผสมกับน้ำยาทำควา มสะอาดกระจกลงไปเล็กน้อย จะช่วยทำความสะอาดได้ดีกว่า น้ำสะอาดเพียงอย่างเดียวนอก จากการตรวจระดับน้ำ แล้วควรที่จะตรวจสภาพของถัง น้ำเองว่ารั่วหรือไม่ โดยการเติมน้ำลงไปทิ้งเวลาส ักพักและค่อยกลับมาตรวจระดั บน้ำอีกครั้งว่าพร่อง หรือลดลงมากเพียงใด เมื่อตรวจไม่พบรอยรั่ว แล้วค่อยลองฉีดน้ำล้างกระจก อีกครั้ง
- สายยางน้ำฉีดกระจกหลุดหรือร อยฉีกขาด : วิธีตรวจเช็คคือมองไล่ตั้งแ ต่การลำเลียงน้ำจากถังน้ำผ่ านมอเตอร์ปั้มน้ำที่ ติดอยู่กับถังน้ำมองไล่ตั้ง แต่สายยางที่ออกจากถังน้ำไป จนถึงหัวฉีดซึ่งถ้าพบ ว่ามีส่วนใดขาดหรือหลุดควรท ำการซ่อมแซม
- หัวฉีดน้ำอุดตัน : อาจจะเกิดจากการที่มีฝุ่นละ อองไปอุดตันหัวฉีดน้ำ วิธีที่ง่ายที่สุดคือการนำเ ข็ม หรือเหล็กแหลมที่สามารถแทงผ ่านรูฉีดน้ำได้มาแทงผ่านรูฉ ีดน้ำเพื่อดันสิ่งที่ อุตันอยู่ให้หลุดออก พร้อมกับการตั้งระดับให้หัว ฉีดสามารถฉีดน้ำพอดีกับกระจ กไม่ต่ำหรือสูงเกินไป ส่วนถ้าใช้เหล็กแหลมทิ่มก็แ ล้วยังไม่หลุดต้องใช้มาตรกา รสุดท้ายคือการนำหัว ฉีดทั้งหัวไปต้มในน้ำร้อนเพ ื่อละลายคราบที่อุดตัน
- มอเตอร์ที่ทำหน้าที่ปั้มน้ำ จากถัง : ถ้าตรวจตั้งแต่รายการ 1-3 แล้วก็ยังฉีดน้ำล้างกระจกไม ่ได้ โดยเฉพาะรถยนต์ที่มีหัวฉีด 2 ตัว และไม่สามารถฉีดน้ำได้ทั้ง 2 ตัวคงต้องพุ่งเป้าไปที่‘มอเ ตอร์ที่ทำหน้าที่ปั๊มน้ำจาก ถัง’ส่วนสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ปั้มน้ำเสียนอกจากว ่าจะหมดอายุการใช้ หรือเกิดจากการใช้งานที่ผิด อย่างเช่นระดับน้ำในถังน้ำต ่ำหรือแห้งแต่ผู้ใช้ ยังคงพยายามฉีดน้ำทำให้มอเต อร์ร้อนจัดและเสียในที่สุด หรือการฉีดน้ำเป็นเวลานานเก ินกว่า 20 วินาทีบ่อยๆ จะทำให้มอเตอร์ร้อนจัดและมี อายุสั้นลง
2.6 น้ำกลั่นแบตเตอรี่
- ควรตรวจดูระดับน้ำกลั่น ก่อนทำการชาร์จทุกครั้ง ว่าแห้งไปหรือไม่ การตรวจเช็คสามารถดูได้จาก ลูกลอยระดับลูกลอยที่ลอยขึ้ นมา จะต้องมองเห็นบาร์สีขาวเล็ก น้อย ( ถ้าแถบบาร์สีขาวสูงเกินไปให ้ดูดน้ำกลั้นออก เพราะนั้นอาจจะทำให้นำกลั่น ล้นได้ ในขณะที่ทำการชาร์จ)หากไม่ม ีฝาลูกลอย ให้ใช้วิธีเปิดฝาจุกแล้วดูว ่าน้ำกลั่นในเซลล์แบตเตอรี่ มึระดับสูงกว่าแผ่น ธาตุภายในประมาณ 1 เซ็นติเมตร (วัดระดับด้วยสายตาก็ได้ ไม่ต้องใช้ไม้บรรทัดไปทาบนะ ค่ะ) ถ้าน้อยกว่าก็ให้เติมน้ำกลั ่นลงไปให้อยู่ระดับที่ประมา ณ 1 เซ็นติเมตร ห้ามเติมมากๆนะ เพราะเดี๋ยวน้ำกลั่นมันจำล้ น เหมือนดังที่กล่าวข้างตัน
- ไม่ควรเติมน้ำหรือสิ่งอื่นใ ดลงไปในแบตเตอรี่ นอกจากน้ำกลั่น
- ในขณะที่ทำการชาร์จไม่ควรมี ประกายไฟ ในบริเวณที่ทำการชาร์จ เพราะจะทำให้แก๊สที่เกิดขึ้ นขณะชาร์จติดไฟได้ สถานที่ชาร์จจะต้องเป็นที่ร ่ม สะอาด อากาศถ่ายเทได้สะดวก
- หลังการทำการชาร์จเรียบร้อย แล้ว ควรพักแบตเตอรี่ให้ระดับควา มร้อนของแบตเตอรี่ลดลงประมา ณ 1ชั่วโมง จึงนำแบตเตอรี่มาใช้งาน
- ควรรักษาความสะอาดขั้ว บนฝา และรอบๆให้สะอาดและแห้งอยู่ ตลอดเวลา ถ้าส่วนบนของแบตเตอรี่สกปรก ให้ใช้ผ้าชุดน้ำแล้วเช็ดให้ สะอาด จะให้น้ำล้างก็ได้ แต่ต้องระวังไม่ให้นำเข้าไป ในตัวแบตเตอรี่ ( ควรทำความสะอาดให้แบตเตอรี่ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งานของแบ ตเตอรี่
เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรค น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ น้ำฉีดกระจก น้ำกลั่นแบตเตอรี่ สามารถตรวจได้บ่อยครั้ง หรือสำหรับผู้ไม่มีเวลาควรต
2.1 น้ำมันเครื่อง การตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื
- เพื่อให้การตรวจเช็คถูกต้อง
- ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออก
- เสียบก้านวัดน้ำมันเครื่องค
- ดึงก้านวัดออกมาอีกครั้งหนึ
ข้อควรระวัง
- หลีกเลี่ยงการเติมน้ำมันเคร
- ตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่อง
2.2 น้ำมันเกียร์
- ขับรถยนต์เป็นเวลา 15 นาที เพื่ออุ่นน้ำมันเกียร์อัตโน
ข้อแนะนำ:
• เนื่องจากน้ำมันเกียร์อัตโน
• สำหรับโคโรลล่า ให้ตรวจเช็คระดับน้ำมันเกีย
- จอดรถในพื้นระดับและดึงเบรก
- ให้เครื่องยนต์เดินเบา, เหยียบเบรก, ดึงคันเบรกมือและเลื่อนคันเ
- ดึงไม้วัดระดับน้ำมันออกมาข
ข้อแนะนำ:
• เมื่อขีดของน้ำมันด้านหลังข
• เมื่อระดับน้ำมันมากกว่าค่า
• ถ้าระดับน้ำมันเกียร์ต่ำเกิ
2.3 น้ำมันเบรค
วิธีการตรวจเช็คระดับน้ำมัน
เทคนิค : เติมน้ำมันเบรคจนถึงเส้นไข่
เครื่องมือ - อุปกรณ์ : ผ้าชุบน้ำผืนขนาดพอสมควร ใช้ปิดตัวถังรถ ด้านที่เติมน้ำมันเบรคเพื่อ
ข้อควรระวัง
- เติมน้ำมันเบรคให้ตรงกับระบ
- น้ำมันเบรคเป็นอันตรายต่อดว
- น้ำมันเบรกจะเสื่อมคุณภาพหา
2.4 น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์
ท่านควรตรวจระดับน้ำมันพวงม
ข้อควรระวัง
- เทน้ำมันช้าๆ และระวังอย่าทำน้ำมันหก ถ้าน้ำมันหกให้รีบทำความสะอ
- ควรใช้น้ำมันยี่ห้อที่ดีตาม
- การที่ระดับน้ำมันต่ำอาจเกิ
- การหมุนพวงมาลัยค้างไว้สุดท
2.5 น้ำฉีดกระจก
การเติมน้ำฉีดกระจกให้เติมใ
- ระดับน้ำในถังน้ำฉีดกระจกอย
- สายยางน้ำฉีดกระจกหลุดหรือร
- หัวฉีดน้ำอุดตัน : อาจจะเกิดจากการที่มีฝุ่นละ
- มอเตอร์ที่ทำหน้าที่ปั้มน้ำ
2.6 น้ำกลั่นแบตเตอรี่
- ควรตรวจดูระดับน้ำกลั่น ก่อนทำการชาร์จทุกครั้ง ว่าแห้งไปหรือไม่ การตรวจเช็คสามารถดูได้จาก ลูกลอยระดับลูกลอยที่ลอยขึ้
- ไม่ควรเติมน้ำหรือสิ่งอื่นใ
- ในขณะที่ทำการชาร์จไม่ควรมี
- หลังการทำการชาร์จเรียบร้อย
- ควรรักษาความสะอาดขั้ว บนฝา และรอบๆให้สะอาดและแห้งอยู่
3. ตรวจใต้ฝากระโปรงหน้า
- ระดับน้ำหล่อเย็น ควรจะมีอยู่ถึงระดับสูงสุดใ นถังพักสำรอง
- หม้อน้ำและท่อยาง ควรดูว่าด้านหน้าหม้อน้ำหมด จดไม่มีเศษวัสดุ หรือใบไม้ติดอยู่ ดูท่อยางว่ามีรอยแยกเปื่อย มีรอยฉีกขาดหรือหลวม
- สายพานขับต่างๆ ต้องไม่มีรอยแตก เลอะน้ำมันหล่อลื่น และความตึงสายพานอยู่ในค่าก ำหนด
- แบตเตอรี่ และสายไฟ ตรวจดูและเติมน้ำกลั่นให้ได ้ระดับที่กำหนดดูเปลือกแบตเ ตอรี่ว่ามีร่องรอย เสียหายหรือไม่ ดูขั้วต่อและสายไฟว่าอยู่ใน สภาพดีหรือไม่
- ระดับน้ำมันเบรคและคลัชท์ ตรวจดูว่าระดับน้ำมันเบรคแล ะคลัทช์อยู่ในระดับที่ถูกต้ อง
- ท่อน้ำมันเชื้อเพลิง ตรวจดูว่าท่อน้ำมันมีการรั่ ว หลุดหรือไม่ โดยเฉพาะสมาชิกที่ติดแก็สอั นนี้สำคัญมากๆ ครับ
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก 100Y Design ครับ
- ระดับน้ำหล่อเย็น ควรจะมีอยู่ถึงระดับสูงสุดใ
- หม้อน้ำและท่อยาง ควรดูว่าด้านหน้าหม้อน้ำหมด
- สายพานขับต่างๆ ต้องไม่มีรอยแตก เลอะน้ำมันหล่อลื่น และความตึงสายพานอยู่ในค่าก
- แบตเตอรี่ และสายไฟ ตรวจดูและเติมน้ำกลั่นให้ได
- ระดับน้ำมันเบรคและคลัชท์ ตรวจดูว่าระดับน้ำมันเบรคแล
- ท่อน้ำมันเชื้อเพลิง ตรวจดูว่าท่อน้ำมันมีการรั่
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก 100Y Design ครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น