เมื่อรถเสียควรทำอย่างไร
คงเป็นคำถามที่หลายๆ คนก็คงอยากรู้คำตอบ ซึ่งหลายคนที่ขับรถนั้นคงไม่ใช่ช่างที่จะสามารถซ่อมรถให้วิ่งต่อได้ในบัดดล แต่สิ่งที่พึงจำไว้คือว่าเมื่อรถพังเราควรที่จะทำอย่างไรก็ตามไม่ให้เกิดปัญหากับเพื่อนร่วมทาง โดยวันนี้เราก็มีข้อแนะนำมาฝากดังต่อไปนี้ครับ
ตั้งสติ และเปิดไฟฉุกเฉิน ทุกครั้งเรามาย้ำว่าสติคือ สิ่งที่สำคัญที่สุดต่อการที่คุณจะแก้ปัญหาต่างๆ และเมื่อคุณพบว่ารถเกิดปัญหา โดยเฉพาะดับกลางอากาศ หรือรถพบอาการผิดปกติ ให้เริ่มต้นด้วยปุ่มไฟฉุกเฉินเพื่อส่งสัญญาณเพื่อนร่วมทางก่อนว่ารถคุณบกพร่อง และไม่สามารถเดินทางต่อได้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเข้าใจผิดของเพื่อนร่วมทาง เพื่อที่เขาจะได้หาทางเบี่ยง หรือหลบหลีกคุณสำหรับ คนที่ไม่ใช่ช่าง หรือไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถยนต์ บางครั้งก็อาจพลาดจุดสังเกตุของอาการผิดปกติของรถคุณ จนต้องมาเสียกลางทางได้ วันนี้ทางเอซีเดลโก้ มีข้อแนะนำ 7 ข้อ ที่จะช่วยลดปัญหาจากสถานะการณ์นี้ได้
1. ตั้งสติและเปิดไฟฉุกเฉิน ;
นี่คือสิ่งแรกที่ต้องทำ เมื่อคุณรู้สึกได้ถึงสิ่งผิดปกติของรถคุณ ไม่ว่าเสียงดังแปลกๆ ควันขึ้น หรือแม้กระทั้งดับกลางถนน คุณต้องกดไฟฉุกเฉินทันทีเพื่อเตือนเพื่อนร่วมทางให้รู้ว่ารถคุณผิดปกติ เพื่อที่เขาจะได้เบี่ยงรถให้คุณ
2. รีบขับรถเข้าข้างทาง ;
เมื่อเปิดไฟฉุกเฉินแล้ว ให้ขับรถเข้าข้างทางโดยเร็ว เพราะการจดเสียในช่องจราจร นอกจากจะกีดขวาง รถคันอื่นแล้ว ยังอาจจะเกิดอุบัติเหตุจากรถคันหลังที่ขับเข้ามาแล้วหลบรถคุณไม่ทัน และให้จอดช่องซ้ายเท่านั้นนะครับ
3. โทรศัพท์มือถือ+เบอร์ฉุกเฉิน ;
สถานะการณ์แบบนี้สิ่งที่ต้องทำคือการโทรขอความช่วยเหลือ สมัยนี้คนใช้สมาร์ทโฟนต้องเตรียมตัวสักนิด เพราะแบตเตอรี่หมดไวเหลือเกิน ก่อนเดินทางสำรวจแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ว่าเหลือพอเหตุฉุกเฉินด้วยหรือไม่ และ เบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินก็ควรจะมีพกไว้ประจำ ให้โทรหาบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือตามผู้เชี่ยวชาญมาช่วยคุณ แต่ถ้าไม่มีจริงๆ ลองโทรเข้าวิทยุจราจรต่างๆ เช่น จส.100 (สายด่วน 1137) หรือ สวพ. 91 (สายด่วน 1644) หรือเบอร์อื่นๆ ก็ช่วยให้คุณสามารถผ่านเหตุการณ์ไปได้
4. อย่าอยู่ห่างรถ ;
อย่าไปไหนไกลจากรถไม่ว่ารถคุณจะยังขับได้หรือไม่ก็ตาม เพราะการจอดทิ้งไว้บนถนนก็มีความเสี่ยงพอแล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะได้แก้ปัญหาหรือหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดได้ อย่าลืมนำกรวยหรือป้าย สามเหลี่ยมฉุกเฉินมาตั้งก่อนถึงรถคุณประมาณ 50 เมตรด้วย
5. ความรู้ช่างเอามาใช้ ;
สำหรับบางคน ที่พอรู้เรื่องช่างบ้าง ถ้ารถเสียไม่มากอาจจะช่วยให้คุณรอดพ้นปัญหาในตอนนี้ได้ ลองสังเกตุรถคุณดูอาจจะช่วยให้คุณกลับบ้านได้ เช่น ขั้วแบตเตอรี่หลวม ยางแบน ซึ่งถ้ามีอุปกรณ์ที่เหมาะสมก็สามารถแก้ปัญหาได้ครับ
6. สังเกตุสิ่งรอบข้าง ;
ข้อนี้อาจจะช้าเกินไป แต่เวลาขับรถลองมองๆ และจำสิ่งรอบข้างไว้ เผื่อจังหวะจำเป็นเช่น ปั้มน้ำมัน ร้านปะยาง หรืออู่ซ่อมรถที่ขับผ่าน ซึ่งความจำบางทีก็กู้วิกฤติเราได้
7. ระวังผู้หวังดี ;
สมัยนี้มีพวกมิจฉาชีพที่รอซ้ำเติมปัญหาของเราอยู่ครับ สังเกตุดูพฤติกรรมของคนที่ลงมาช่วยด้วยจะดีมากๆ ยิ่งถ้ารถเสียบนถนนต่างจังหวัดนี่ยิ่งอันตราย ถ้าไม่จำเป็น ให้นั่งอยู่บนรถเปิดไฟฉุกเฉิน
ตั้งสติ และเปิดไฟฉุกเฉิน ทุกครั้งเรามาย้ำว่าสติคือ สิ่งที่สำคัญที่สุดต่อการที่คุณจะแก้ปัญหาต่างๆ และเมื่อคุณพบว่ารถเกิดปัญหา โดยเฉพาะดับกลางอากาศ หรือรถพบอาการผิดปกติ ให้เริ่มต้นด้วยปุ่มไฟฉุกเฉินเพื่อส่งสัญญาณเพื่อนร่วมทางก่อนว่ารถคุณบกพร่อง และไม่สามารถเดินทางต่อได้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเข้าใจผิดของเพื่อนร่วมทาง เพื่อที่เขาจะได้หาทางเบี่ยง หรือหลบหลีกคุณสำหรับ คนที่ไม่ใช่ช่าง หรือไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถยนต์ บางครั้งก็อาจพลาดจุดสังเกตุของอาการผิดปกติของรถคุณ จนต้องมาเสียกลางทางได้ วันนี้ทางเอซีเดลโก้ มีข้อแนะนำ 7 ข้อ ที่จะช่วยลดปัญหาจากสถานะการณ์นี้ได้
1. ตั้งสติและเปิดไฟฉุกเฉิน ;
นี่คือสิ่งแรกที่ต้องทำ เมื่อคุณรู้สึกได้ถึงสิ่งผิดปกติของรถคุณ ไม่ว่าเสียงดังแปลกๆ ควันขึ้น หรือแม้กระทั้งดับกลางถนน คุณต้องกดไฟฉุกเฉินทันทีเพื่อเตือนเพื่อนร่วมทางให้รู้ว่ารถคุณผิดปกติ เพื่อที่เขาจะได้เบี่ยงรถให้คุณ
2. รีบขับรถเข้าข้างทาง ;
เมื่อเปิดไฟฉุกเฉินแล้ว ให้ขับรถเข้าข้างทางโดยเร็ว เพราะการจดเสียในช่องจราจร นอกจากจะกีดขวาง รถคันอื่นแล้ว ยังอาจจะเกิดอุบัติเหตุจากรถคันหลังที่ขับเข้ามาแล้วหลบรถคุณไม่ทัน และให้จอดช่องซ้ายเท่านั้นนะครับ
3. โทรศัพท์มือถือ+เบอร์ฉุกเฉิน ;
สถานะการณ์แบบนี้สิ่งที่ต้องทำคือการโทรขอความช่วยเหลือ สมัยนี้คนใช้สมาร์ทโฟนต้องเตรียมตัวสักนิด เพราะแบตเตอรี่หมดไวเหลือเกิน ก่อนเดินทางสำรวจแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ว่าเหลือพอเหตุฉุกเฉินด้วยหรือไม่ และ เบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินก็ควรจะมีพกไว้ประจำ ให้โทรหาบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือตามผู้เชี่ยวชาญมาช่วยคุณ แต่ถ้าไม่มีจริงๆ ลองโทรเข้าวิทยุจราจรต่างๆ เช่น จส.100 (สายด่วน 1137) หรือ สวพ. 91 (สายด่วน 1644) หรือเบอร์อื่นๆ ก็ช่วยให้คุณสามารถผ่านเหตุการณ์ไปได้
4. อย่าอยู่ห่างรถ ;
อย่าไปไหนไกลจากรถไม่ว่ารถคุณจะยังขับได้หรือไม่ก็ตาม เพราะการจอดทิ้งไว้บนถนนก็มีความเสี่ยงพอแล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะได้แก้ปัญหาหรือหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดได้ อย่าลืมนำกรวยหรือป้าย สามเหลี่ยมฉุกเฉินมาตั้งก่อนถึงรถคุณประมาณ 50 เมตรด้วย
5. ความรู้ช่างเอามาใช้ ;
สำหรับบางคน ที่พอรู้เรื่องช่างบ้าง ถ้ารถเสียไม่มากอาจจะช่วยให้คุณรอดพ้นปัญหาในตอนนี้ได้ ลองสังเกตุรถคุณดูอาจจะช่วยให้คุณกลับบ้านได้ เช่น ขั้วแบตเตอรี่หลวม ยางแบน ซึ่งถ้ามีอุปกรณ์ที่เหมาะสมก็สามารถแก้ปัญหาได้ครับ
6. สังเกตุสิ่งรอบข้าง ;
ข้อนี้อาจจะช้าเกินไป แต่เวลาขับรถลองมองๆ และจำสิ่งรอบข้างไว้ เผื่อจังหวะจำเป็นเช่น ปั้มน้ำมัน ร้านปะยาง หรืออู่ซ่อมรถที่ขับผ่าน ซึ่งความจำบางทีก็กู้วิกฤติเราได้
7. ระวังผู้หวังดี ;
สมัยนี้มีพวกมิจฉาชีพที่รอซ้ำเติมปัญหาของเราอยู่ครับ สังเกตุดูพฤติกรรมของคนที่ลงมาช่วยด้วยจะดีมากๆ ยิ่งถ้ารถเสียบนถนนต่างจังหวัดนี่ยิ่งอันตราย ถ้าไม่จำเป็น ให้นั่งอยู่บนรถเปิดไฟฉุกเฉิน
ข้อปฎิบัติ 7 ข้อเหล่านี้ อย่างน้อยที่สุดก็จะช่วยลดปัญหาจากเหตุการณ์ฉุกเฉินได้ แต่ทางที่ดีที่สุดคือตรวจสภาพรถให้พร้อมอยู่เสมอก่อนออกเดินทางนะครับ..
Cr; www.postjung.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น